MovieHDFree

MovieHDFree

MovieHDFree “Amber Heard” แปลงกลุ่มทนายความ หวังต่อสู้คดีในศาลอุทธรณ์กับ Johnny Depp อีกรอบ

MovieHDFree เมื่อวันจันทร์ที่ 15 เดือนสิงหาคมก่อนหน้าที่ผ่านมา ผู้แทนของแอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Herd) ได้ประกาศว่าจ้างกลุ่มทนายชุดใหม่นำโดย เดวิส แอล. แอ็กแซลร็อด (David L. Axelrod) และก็ เจ เวิร์ด บราวน์ (Jay Ward Brown) แทนกลุ่มข้อบังคับชุดเก่า เพื่อหวังมาช่วยต่อสู้คดีต่อในศาลชั้นอุทธรณ์ ภายหลังที่เฮิร์ดแพ้คดีกล่าวหาให้กับ จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) ในศาลชั้นต้นเมื่อมิถานายนก่อนหน้านี้

เมื่อเร็วๆนี้ อีเลน เบรดฮอฟต์’ (Elaine Bredehoft) ทนายความหลักของเฮิร์ดได้ตกลงใจลาออกจากกลุ่ม ส่วน เบน คอยทเทนบอร์น (Ben Rottenborn) ทนายความอีกคนจะยังคงปฏิบัติการช่วยเหลือคดีนี้ถัดไป โดยเบรดฮอฟต์ชี้แจงเหตุนี้ว่า “เป็นตอนๆในเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเพื่อการส่งไม้ต่อ”

MovieHDFree ทนายความคนใหม่ทั้งยัง 2 ได้แถลงการณ์ร่วมบอกกับผู้รายงานข่าวว่า “พวกเรายินดีมากมายที่ได้เป็นผู้แทนให้นางสาวเฮิร์ดสำหรับในการอุทธรณ์คราวนี้ ด้วยเหตุว่าการเปลี่ยนแปลงญัตติหนแรกมีความหมายและก็สื่อความหมายต่อคนอเมริกันทุกคน พวกเราแน่ใจว่าศาลอุทธรณ์จะใช้ข้อบังคับอย่างแม่นยำโดยไม่ยึดเรื่องความชื่นชอบ และก็รับรองเรื่องแนวทางเบื้องต้นของอิสระในการพูดอีกรอบ”

ด้านผู้แทนของเดปป์ ไม่ยอมรับที่จะให้ความคิดเห็นในข่าวสารนี้ แม้ว่าจะไม่มีข้อมูลกระจ่างแจ้งว่าเพราะเหตุใดเฮิร์ดถึงว่าจ้างทนายความ 2 คนนี้มาช่วยต่อสู้คดี แต่ว่าคาดว่าน่าจะมาจากผลงานอันโด่งดังของทนายความทั้งยัง 2 ที่เคยช่วยทำให้ The New York Times ชนะคดีจาการถูก ซาราห์ เพลิดเพลิน (Sarah Palin) อดีตกาลผู้ว่าการรัฐอลาสกา แล้วก็ผู้สมัครแย่งตำแหน่งรองประธานาหัวหน้าที่อเมริกา ฟ้องศาลในคดีสบประมาท จากบทความที่เพลิดเพลินเห็นว่ามีเนื้อความที่กล่าวโทษแล้วก็อาฆาตพยาบาทคุณอยู่

ข้อสรุปคดีในศาลชั้นต้นระหว่างเฮิร์ดรวมทั้งเดปป์นั้น ทำให้เฮิร์ดจะต้องจ่ายค่าปรับ 15 ล้านเหรียญ ให้กับเดปป์ รวมทั้งคุณก็ได้รับ 2 ล้านเหรียญจากการฟ้องกลับคดีสบประมาท (Countersuit Defamation)

รีวิว John Lewis: Good Trouble – มุมมองนานัปการของชายที่ทำให้เกิดการจลาจลเพื่อประชากร

เรื่องย่อ ภาพยนตร์สารคดีเผยแพร่ชีวิตของ ‘จอห์น ลูอิส’ (John Lewis) วีรบุรุษผู้วายชนม์ผู้อุทิศตลอดชีพตลอด 80 ปี เพื่อต่อสู้เพื่อสิทธิคนผิวดำในสหรัฐฯ เป็นหัวขบวนร่วมทุกข์ร่วมสุขกับ ‘ดร.มาร์ติน ลูคุณร์ คิง จูเนียร์’ สนับสนุนการต่อต้านแล้วก็เคลื่อนขบวนครั้งใหญ่ในสมัย 60’s เพื่อเรียกร้องสิทธิข้าราชการและก็สิทธิ์สำหรับการออกเสียงลงคะแนนด้วยสันติวิธี แต่จำต้องพบเจอกับการเช็ดกจับกุมตัวมากยิ่งกว่า 45 ครั้ง และก็ถูกทำร้ายร่างกายจนถึงบาดเจ็บอย่างหนัก ก่อนที่จะหันด้านเข้าไปต่อสู้ในที่ประชุมในฐานะสมาชิกรัฐสภา และก็อุทิศตนเพื่อต่อสู้เรียกร้องสิทธิและก็ความถูกต้องแน่ใจจนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็น 1 ใน 6 คนนำทางความนึกคิดของคนดำและก็คนไม่ค่อยได้รับโอกาศในอเมริกา

‘John Lewis: Good Trouble’ หรือ ‘จอห์น ลูอิส: ชายกล้าขวางโลก’ นี่อันที่จริงแล้วเข้าฉายเมื่อปี 2020 ก่อนที่จะ ‘จอห์น ลูอิส’ (John Lewis) เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อนระยะท้ายที่สุดเพียงแค่ไม่กี่วันเองครับผม รวมทั้งที่สำคัญเป็น ตอนนั้น (ราวๆกรกฏาคม 2020) ยังเป็นตอนๆเริ่มร้อนรุ่มเพราะเหตุว่าเป็นตอนๆเข้าโค้งที่เริ่มจะมีการเลือกตั้งผู้นำด้วย สารคดีประเด็นนี้ก็เลยผุดขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศอันเข้มข้นของการบ้านการเมืองอเมริกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ MovieHDFree

ภาพยนตร์สารคดีหัวข้อนี้เล่าถึง ‘จอห์น ลูอิส’ (John Lewis) อดีตกาลเด็กวัยหนุ่มเก็บฝ้ายเลี้ยงไก่จากเมืองทรอย (Troy) เมืองแอละบามา (Alabama) วัยชายหนุ่มของเขาจำเป็นต้องพบเจอกับการแบ่งแยกสีผิวแบบที่พวกเรามองเห็นในหนัง Feature ที่เกี่ยวกับคนผิวดำเลย ยกตัวอย่างเช่น เวลาคนผิวดำไปห้องอาหารห้ามนั่งหน้าเคาน์เตอร์ จำต้องไปนั่งโซนเฉพาะ เข้าส้วมควรจะมีห้องแยกที่มีป้ายติด ขึ้นรถบัสก็จะต้องหลบไปนั่งด้านหลัง ซึ่งจอห์นรวมทั้งพวกก็จะเข้าไปต่อต้านตามหนทางสันติวิธี ด้วยการเข้าไปนั่งในพื้นที่คนผิวขาวนี่แหละ ก่อนที่จะคนผิวขาวจะเดินเข้าไปต่อว่าต่อขานด่า พุ่งเข้ามารังควานต่อยตี หรือไม่ก็แจ้งตำรวจให้มาจับไป ซึ่งผู้ที่ต่อต้านก็จะไม่ตอบโต้ตามหลักสันติวิธี betflik dc

จนตราบเท่าเขาได้ยอดเยี่ยมในแกนนำการต่อต้านระดับประเทศที่เรียกว่า ‘March on Washington’ ในปี 1963 ร่วมกับ’มาร์ติน ลูคุณร์ คิง’ (Martin Luther King) รวมทั้งการต่อต้าน ‘Bloody Sunday’ ที่เมืองเซลมา (Selma) เมืองแอละบามา ที่เรียกร้องให้เมืองนำตัวทหารผิวขาวที่ยิงชายผิวดำมาลงอาญา ตามหลักที่เขาเรียกว่า ‘ความยุ่งเหยิงที่มีประโยชน์’ (Good Trouble) ตามชื่อหนังนั่นแหละ ในคราวนั้นทหารของเมืองเข้าจบการคัดค้าน ทำให้ผู้ประชุมรวมทั้งจอห์นได้รับบาดเจ็บที่หัวจนกระทั่งสลบและก็ถูกฟ้องร้อง แม้กระนั้นก็จัดว่าบรรลุความสำเร็จสำหรับการส่งเสริมกฏหมายสิทธิประชาชนหลายฉบับเพื่อยกเลิกการเลือกปฏิบัติ และก็ยังเปิดช่องให้คนผิวดำสามารถลงคะแนนเสียงได้เป็นครั้งแรก

รีวิว The Power ไฟดับ จับผี – พลังหญิงสู้ภัยอำนาจร้ายในเวลากลางคืนที่แสนจะมืดตึ้บ

เรื่องย่อ 1974 พยาบาลสาวคนหนึ่งถูกบังคับให้ทำงานกะดึกในโรงหมอที่ยับเยิน ด้วยเหตุว่ากรรมกรเหมืองแร่ที่ตระหนกตกใจปิดไฟทั่วสหราชอาณาจักร แต่ว่าข้างในกำแพงนั้นซ่อนตัวอยู่อย่างน่าสยองที่รุกรามคุณและก็ทุกคนรอบข้างคุณ MovieHDFree

‘The Power’ หรือในชื่อไทย (แบบที่นักเขียนเองก็อ่านแล้วรู้สึกจึ๊กๆนิดหนึ่ง) อย่าง ‘ไฟดับ จับผี’ เป็นหนังฟอร์มเล็กจากเกาะอังกฤษครับ ผลงานการควบคุมภาพยนตร์โดย ‘คอรินที่นา เฟธ’ (Corinna Faith) ถึงแม้ในไทยบางครั้งก็อาจจะมองเป็นหนังเล็กไปหน่อย แม้กระนั้นเครดิตของหนังหัวข้อนี้ก็นับว่าเยี่ยมเลย เนื่องจากได้รับการสรรเสริญเป็นเยี่ยมในหนังสยองขวัญที่เยี่ยมที่สุดรายปี 2021 ที่มีคุณค่าแก่การกล่าวถึง (Honorable Mentions) จากเว็บจัดลำดับเพลิดเพลิน watchmojoแล้วก็ทำแต้มมะเขือสดจากเว็บไซต์มะเขือเน่า rottentomatoes ได้ถึง 84%

ตัวหนังเกี่ยวกับเรื่องราวที่ใช้แรงจูงใจจากเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงบนเกาะอังกฤษในปี 1974 ที่มีเหตุหยุดงานประท้วงของคนงานในสหภาพเหมือง เพื่อโต้ตอบรัฐบาลที่ไม่ตอบรับคำเรียกร้องให้ขึ้นค่าแรง ทำให้กำลังในการผลิตกระแสไฟฟ้าลดน้อยลง รัฐบาลก็เลยออกมาตรการบังคับตัดไฟในยามวิกาล ทำให้ไฟดับทั่วทั้งยังเกาะอังกฤษ พร้อมทั้งออกมาตรการบังคับให้ธุรกิจต่างๆลดวันทำงานเหลืออาทิตย์ละ 3 วัน รวมถึงสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์รวมทั้งวิทยุ จำต้องกระทำงดเว้นถ่ายทอดภายหลังสี่ทุ่มเป็นต้นไป

‘วาล’ (Rose Williams) พยาบาลสาวแสนซื่อที่พึ่งได้เข้ามาดำเนินงานเป็นพยาบาลฝึกฝนในราชพยาบาล (Royal London Hospital) ที่แสนจะครัดเคร่งในกฏระเบียบปฏิบัติเป็นวันแรก ต้องยอมเข้าเวรดึกดื่นอยู่เฝ้าโรงหมอในกลางคืนที่จำต้องปิดไฟ แล้วก็โรงหมอได้โยกย้ายผู้ป่วยนิดหน่อยไปไว้ที่โรงหมออื่น คุณก็เลยจำเป็นต้องจะต้องพบเจอกับความมืดมนมิดแต่เพียงลำพัง กับจำเป็นต้องพบเจอกับพลังลึกลับอันดุร้ายในโรงหมอที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ความตาย

สิ่งแรกที่คนเขียนซาบซึ้งใจกับตัวหนังตั้งแต่วินาทีแรกก็คือ มันมืดมากขอรับ (555) ซึ่งมันมืดตึ้บจริงๆขนาดว่ากลางวันก็ยังจัดแสงสว่างแล้วก็เกรดสีให้ออกมาทึมหมองได้ซะขนาดนั้น ซึ่งจะว่าไปก็สมกับความเป็นอังกฤษที่ฝนตกฟ้าหมองคือเรื่องธรรดาอยู่เช่นเดียวกันแฮะ แถมยังมีบรรยากาศแบบสมัย 70’s มาบิลต์ให้มองน่าสยดสยองขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งเพียงพอเป็นอะไรแบบงี้แล้ว คนเขียนก็เลยคิดว่า อย่างไรหนังหัวข้อนี้ก็จะต้องมองในโรงภาพยนต์เพียงแค่นั้นครับผม ที่กำลังจะได้ความรู้สึกราวนี้ มองผ่านโทรทัศน์ ปิดไฟ ปิดผ้าม่าน อย่างไรก็ไม่น่าจะเวิร์ก

MovieHDFree และก็แน่ๆว่า เพียงพอไปสู่ตอนกลางคืนที่ไฟดับ นี่เป็นกล่าวได้ว่ามืดตึ้บแบบสุดๆขอรับ! มืดแบบประเภทที่ว่ามองดูเกือบจะมองไม่เห็นมือตนเองด้วย เป็นความมืดที่มีแสงสว่างน้อยมาก ยิ่งบางซีนที่มิได้มีไฟตะเกียงหรือไฟฉายนี่เป็นเกือบจะมองดูอะไรมองไม่เห็นแล้ว บางห้องที่อยากที่จะให้มืดนี่ก็คือมืดมิด 100% ยังดีที่ทำการจัดแสงสว่างและก็ส่วนประกอบภาพยังพอเพียงช่วยทำให้แลเห็นอะไรได้บ้างนิดหน่อย เป็นถึงแม้ว่าจะเป็นความมืดที่มองอย่างไรก็รู้ว่าควรมีการจัดแสงสว่างนิดหนึ่งล่ะ ไม่เช่นนั้นกล้องถ่ายภาพถ่ายไม่ติด! แต่ยังไงมันก็ออกมามองมืดตึ้บอยู่ดี ประกอบกับบรรยากาศสมัย 70’s รวมถึงการออกแบบซาวนด์เอฟเฟกต์ที่ทำเป็นอย่างยอดเยี่ยม ทั้งหมดทั้งปวงนี้เลยทำให้บรรยากาศโดยรวมในหนังมืดตึ้บที่สมจริงสมจัง ไม่น่าไว้วางใจ รวมทั้งเขย่าขวัญสั่นประสาทกระทั่งนักเขียนนั่งแทบจะไม่ติดเก้าอี้ไปในขณะเดียวกัน!

แต่ว่าสิ่งที่ทำให้หนังหัวข้อนี้มีความลึกมากยิ่งกว่าหนังสยองขวัญที่มีผีออกมาในความมืดมนกลับกลายเรื่องของศูนย์กลางเรื่องขอรับ! ซึ่งมันเปลี่ยนมาเป็นเงื่อนของหนัง ซึ่งตัวหนังเองจัดว่าออกจะฉลาดหลักแหลมสำหรับในการซ่อนเร้นหลักสำคัญเรื่องของสตรีนิยม! ระบบอาวุโส การใช้อำนาจ กฏระเบียบปฏิบัติอันครัดเคร่ง (ที่ไม่ค่อยเมกเซนส์) รวมถึงหัวข้อความชิงชังกลัวเพศหญิงและก็คนต่างด้าว! ที่สะท้อนผ่านผู้ป่วยเด็กผู้หญิงคนแขก (ที่ดุจว่าจะมีเซนส์บางอย่าง) ที่ชื่อว่า ‘ชบา’ (Shakira Rahman)!

และก็ที่เป็นเงื่อนใหญ่ที่สุดเป็นเรื่องของปิตาธิปไตย หรือเรื่องของ “ชายยิ่งใหญ่”! ที่ถูกซ่อนเอาไว้ในด้านมืด ซึ่งตัวหนังภาษาอังกฤษใช้คำว่า ‘The Power’ เพื่อสื่อให้มองเห็นถึงพลัง ที่นอกเหนือจากที่จะหมายคือกำลังไฟฟ้า ที่ทำให้วาลจำต้องพบกับความมืดดำตึ้บแล้ว ยังหมายคือพลังของอำนาจ! ทั้งยังอำนาจของสถานการณ์ชายยิ่งใหญ่ อำนาจของกฏกฎระเบียบ อำนาจที่ความไม่ชอบกลัวหญิงและก็คนต่างด้าวที่กดทับเพศหญิง (เหล่าพยาบาลทั้งหลายแหล่แล้วก็ชบา)!