The Incredible Hulk (2008) เต็มเรื่อง

The Incredible Hulk (2008) เต็มเรื่อง

The Incredible Hulk (2008) เต็มเรื่อง เกิดเรื่องราวของ “ดร. บรูซ แบนเนอร์” นักวิทยาศาสตร์ชายหนุ่มอัจฉริยะที่โดนรังสีแกมม่าเข้าไประหว่างทดลองทำให้ร่างกายของเขามีการเปลี่ยนไปเป็นอสูรกายเมื่อถ้าหากหัวใจเขาเต้นเร็วเหลือเกิน ทำให้ แบนเนอร์

จำเป็นต้องหนีออกมาแล้วก็ไปดำเนินชีวิตและก็ดำเนินการอยู่ที่โรงงานทำน้ำส้มแล้วก็ที่สำคัญไปฝึกฝนเพื่อให้มีสมาธิไม่ให้ เขาโกรธหรือหัวใจเต้นเร็วไป ที่บราซิล แล้วก็ขอคำแนะนำแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการแก้รังสีกับ “คุณบลู” แต่ว่าก็ไม่วายที่จะถูกหน่วยทหารของ นายพล “ธันเดอร์โบลท์” รอคอยส ตามล่ากันถึงบราซิล ทำให้แบนเนอร์จำเป็นต้องหนีออกมาจากโรงงาน และก็ต่อไปนี้เขาก็ได้ทำสิ่งที่ไม่มีผู้ใดต้องการที่จะให้กำเนิดลงไปเป็นการเปลี่ยนร่างเป็น “เดอะ ฮัลค์”

แม้ว่าจะรอดไปได้ แม้กระนั้นก็ไม่วายการกลายร่างของแบนเนอร์ก็ไปทำให้ สะดุดตา “เอมิล บอร์นสกี้” ทหารชายหนุ่มคนนึงที่พึงพอใจการเปลี่ยนร่าวของแบนเนอร์อย่างมาก ทำให้เข้าได้เข้าทดสอบฉีดเซรั่มทำให้เขากล้าแกร่งมีความรวดเร็วอึดเหนือมนุษย์ แล้วก็ที่ฉีดเข้าไปก็คือ เซรัมที่อยู่ในโครงงาน “ซูเปอร์โซลเยอร์”

The Incredible Hulk (2008) เต็มเรื่อง

ดูหนังออนไลน์ The Incredible Hulk (2008)

เรื่องราวย่อ The Incredible Hulk (2008) เต็มเรื่อง  บรูซ แบนเนอร์ (เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน) นักวิทยาศาสตร์ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในเงามืดมัวแต่สร้างสรรค์แนวทางบำบัดรักษาอารมณ์ ในระหว่างที่พวกหิวการสู้รบก็ไม่ปลดปล่อยให้เขาได้อยู่อย่างสงบสุข หรือยินยอมให้ได้ดำรงชีวิตอย่างสุขสบายกับ เบ็ตตี้ คอยส (ลิฟ ไทเลอร์) หญิงคู่รักของเขา ส่วนในโลกที่เต็มไปด้วยแสงสีและก็ความรุ่งเรือง ดิ แอ็บโบไม่เนชั่น (ทิม คอยท) ก็ไล่ล่าแพทย์อัจฉริยะอย่างไม่ลดละ เขานี่แหละเป็นอสรพิษร้ายตัวฉกาจที่จะประมือกับ เดอะ ฮัลค์ ให้ได้ ศึกระหว่างคู่ปรับจากหนังสือการ์ตูน ก็ผุดขึ้นเมื่อ บรูซ แบนเนอร์ จำต้องอาศัยพลังยอดมนุษย์ในตัวเข้าช่วยมหานครนิวยอร์กที่ถูกกระหน่ำพัง!

บรูซแอบเข้าไปที่ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อลักขโมยข้อมูลของตัวเองแม้กระนั้นข้อมูลถูกลบไปแล้ว เบทตี้มามาพบกับบรูซและก็พาบรูซไปที่บ้านเพื่อข้อมูลที่แอบเซฟมาก่อนที่ข้อมูลจะถูกลบกับบรูซ วันถัดมาบรูซก็ถูกกองทัพของนายพลรอคอยสกับบลอนสกีตามล่า บรูซกลายร่างเป็นยักษ์เขียวและก็ถูกบลอนสกีล่อให้เขาไปชิดกับคลื่นเสียง แต่ว่าบรูซทำลายเครื่องสงสัญญาณนั้นทิ้งไป เบทตี้มานะเข้าไปหาบรูซแม้กระนั้นมีการเกิดระเบิดขึ้น บรูซก็เลยปกป้องรักษาเบทตี้แล้วพาเบทตี้หนีไป

บลอนสกีฟื้นฟูสภาพร่างกายที่เจ็บข้างหลังการต่อสู้กับบรูซและก็กลับมาตามล่าตัวบรูซต่อ บรูซกับเบทตี้หนีไปร่วมกันเพื่อไปพบกับดร.สเติร์น บรูซขอให้เสติร์นทดสอบฉีดยาที่สกัดขึ้นแม้กระนั้นจำต้องทำให้บรูซกลายร่างเป็นยักษ์เขียวก่อน บรูซเริ่มก่อกวน

เบทตี้ก็เลยให้บรูซึมองมาที่หน้าตนเองแล้วมีสติปรากฏว่ายาใช้ได้ผล สเติร์นสกัดเลือกของบรูซด้วยเหตุว่ามั่นใจว่าเลือดของบรูซใช้รักษาคนได้ ระหว่านั้นพวกของท้องนาพลคอยสตามมาแล้วก็บุกในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ บรูซถูกยิงยาสบเบทตี้ถูกกันตัวออกไป บลอนสกีบังคับให้สเติร์นฉีดยาลักษณะเดียวกันกับบรูซให้ตนเอง ดร.สเติร์นเตือนว่าบางครั้งอาจจะแปลงเป็นอสูรกายแม้กระนั้นเขาไม่ในใจ รวมทั้งเริ่มทำลายเมือง

แม้กระนั้นการทดสอบก็จำต้องสิ้นสุดลงอย่างเฉียบพลัน จนกระทั่งวันหนึ่ง ลูกที่เติบโตขึ้นมาเฉลียวฉลาดแล้วก็เลี้ยงชีพนักวิทยาศาสตร์เสมือนบิดา ก็ไปเกิดอุบัติเหตุสำหรับเพื่อการทดสอบของตัวเอง สัมผัสและก็ปะทะกับรังสีแกมม่าอย่างจัง ผลพวงของกรรมพันธุ์พิเศษทำให้เขาไม่ตาย แถมยังแปลงเป็นอะไรที่พิเศษมากกว่า แม้แต่ว่าก็ก่อความลำบากตรากตรำสำหรับการดำรงชีพ เนื่องจากความโกรธเคืองในใจทำให้เขาแปลงเป็นยักษ์เขียวที่กราดเกรี้ยวทำลายทั้งหมดทุกอย่างที่กีดขวาง

ในเวลาที่พ่อทหารของนางเอกก็ตามล่าตัวเขาเป็นการใหญ่ ด้วยจะเอาไปเป็นตัวทดสอบอาวุธมหาประลัย หนังยาว 2 ชั่วโมงกว่าๆเรื่องราวจุดเริ่มที่เล่าอย่างเนือยๆราวเป็นหนังแนวลึกลับมากยิ่งกว่าจะเป็นหนังแนวซูเปอร์วีรบุรุษ แถมเรื่องก็ออกจะสลับซับซ้อนพางงมากกว่าจะเข้าหัวใจ การเดินเรื่องเป็นไปอย่างเคร่งเครียดรวมทั้งบอกเนื้อหาสำหรับในการทดสอบทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ลงลึกเกินความจำเป็น เปลี่ยนเป็นหนังที่มองน่ารำคาญถึงแม้สเปเชี่ยลเอฟเฟกต์จะเข้าขั้นก็ตาม

Post-Credit Scenes: โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์ กลับมาแสดงตัวเป็น โทนี่ สตาร์ค อีกที! พร้อมทั้งพูดจาเชิญนายพลรอคอยสให้ร่วมมือทำบางสิ่งด้วยกัน ซึ่งทั้งสองต่างไม่ยินยอมยินยอมให้ แม้นายพลรอคอยสจะอยู่ในตอนที่เมาแอ๋ที่สุดก็ตาม แล้วก็ยังมีช็อตสั้นๆของกัปตันอเมริกาที่ถูกแช่แข็งอยู่ภายใต้น้ำแข็งยักษ์ในฉากที่บรูซ แบนเนอร์กำลังกลายเป็นฮัลค์ด้วย (ขอนับถือผู้ที่หาพบ ตาดีมากมาย!)

ในหนังนั้น ดร. ซามูเอล สเติร์นส หรือที่รู้จักกันในชื่อ มิสเตอร์บลู เป็นคนที่พากเพียรช่วยรักษาแบนเนอร์ให้หาย แต่เขากลับโดนเอมิล บลอนสกี้รังแกและก็ติดโรคจากเลือดแบบอย่างของแบนเนอร์ ทำให้เขาเริ่มที่จะกลายพันธุ์ ซึ่งแตกต่างกันกับในคอมิกส์ทั้งหมดตรงที่ว่า มิสเตอร์บลู เป็นรหัสเนมที่ เบ็ตตี้ คอยส ใช้เพื่อติดต่อกับแบนเนอร์ยามที่เขากำลังหนี ส่วนสเติร์นสนั้นกลายร่างเป็น The Leader เพราะว่ารังสีแกมม่าลักษณะเดียวกันกับที่แบนเนอร์ได้รับนั่นเอง

ในเวลาที่ฉันกำลังเขียนรีวิวนี้ Avengers: Endgame กำลังทำลายสถิติบ็อกซ์สถานที่ทำงานในฐานะจุดสุดยอดของ 11 ปีของ MCU Marvel Studios ได้แปลงเป็นหัวหน้าที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรสามารถหยุดได้ เมื่อ The Incredible Hulk ออกฉายในปี 2008 ภาพยนตร์เรื่องลำดับที่สองของสิ่งที่เรียกว่า « Phase 1 » ภายหลัง Iron Man การบรรลุผลดังที่กล่าวผ่านมาแล้วเป็นเพียงแต่ความมุ่งมาดถ้าหากจินตนาการไว้เลย

แต่ หนังประเด็นนี้เกิดเรื่องแปลกใน MCU

มันไม่นับว่าเป็นนาฬิกาที่จำเป็นจะต้อง ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยลืมมันหรือเพียงแค่ไม่เคยมองเห็นมันมาก่อน และก็นี่ก็ไม่น่าฉงนใจนัก เนื่องจาก The Incredible Hulk มีความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันกับภาพยนตร์ MCU เรื่องอื่นอย่างสิ้นเชิง ไม่มีสีสันที่ผ่องใส เรื่องขำขันมีอยู่ไม่มากสักเท่าไรนัก และก็ที่ห่วยสุดๆก็คือไม่มีแม้กระทั้งมาร์ค รัฟฟาโลผู้เป็นสุดที่รักในบทบรูซ แบนเนอร์ / เดอะ ฮัลค์ แม้กระนั้น ฉันมีความรู้สึกว่าหนังประเด็นนี้คงจะได้รับการยินยอมรับจากคนที่ติดอกติดใจ Marvel มากยิ่งกว่านี้

แม้กระนั้น ถัดมาในปีเดียวกันนั้นเอง Marvel Studios ก็เริ่มธุรกิจด้วยวีรบุรุษการ์ตูนอีกคนซึ่งมีชื่อเสียงมากยิ่งกว่าเขาอย่างไม่บางทีอาจคาดคะเนได้: The Incredible Hulk (2008) เต็มเรื่อง นอกจากที่สามัญชนทั่วๆไปรับทราบผ่านการ์ตูนรวมทั้งการปรากฏตัวของเขาในซีรีส์แอนิเมชั่นหลายเรื่องแล้ว นักแสดงยอดนิยมเยอะที่สุดซ้ำยังมาสำหรับในการแสดงสดบนจอของโทรศัพท์ทุกอาทิตย์ตรงเวลายาวนานหลายปี Bill Bixby

แสดงในซีรีส์ทีวีรวมทั้งภาพยนตร์โทรทัศน์หลายเรื่องตลอดตอนทศวรรษ 1970 และก็ 1980 รวมทั้งในรูปภาพยนตร์พวกนั้น เขาได้นำความเป็นคนและก็บริเวณใบหน้าที่น่ารักน่าเอ็นดูมาสู่นักวิทยาศาสตร์ที่ถูกทารุณ David Banner (แปลงจากชื่อเริ่มแรกของนักแสดงเป็น Bruce Banner)

แบนเนอร์ถูกบังคับให้จำเป็นต้องแอบหนีเนื่องด้วยความเคลื่อนไหวที่ไม่อาจควบคุมได้จนถึงเปลี่ยนมาเป็นฮัลค์ตัวใหญ่ที่โกรธเกรี้ยว แบนเนอร์ก็เลยมานะอย่างมากที่จะวางตัวลง ค้นหาแนวทางรักษามัน และก็ช่วยเหลือผู้คนที่เขาเจอกลางทาง ไม่มีผู้ใดสามารถเน้นผลงานอันน่าทึ่งของ Bixby ได้โดยไม่ย้ำ Lou Ferrigno ซึ่งทำให้ Hulk มีชีวิตขึ้นมาทุกอาทิตย์ด้วยความพลุ่งพล่านเต็มกำลัง ในหลายๆด้าน ซีรีส์ทางโทรทัศน์ยังคงเป็นสื่อหลักที่ผู้คนเคยชินกับนักแสดงนี้

ตอนมองซีรี่ส์นี้ผมเลยได้แง่คิดความจริงนิดหน่อยติดไม้ติดมือกลับมา ว่าถ้าเกิดมนุษย์เราตั้งใจประพฤติดีใฝ่ดี แม้กระทั่งตกอยู่ในถิ่นที่มีเพียงแต่คนทำชั่ว ดูหนัง netflix พวกเราจะไม่โอนเอนไปประพฤติชั่วตาม เพราะฉะนั้นการที่พวกนักการเมืองเข้าไปตามน้ำในที่ประชุม จะมากล่าวถึงว่าทำเนื่องจากว่าสิ่งที่จำเป็นก็ผิดนัก จริงๆแล้วพวกเราเลือกได้ล่ะครับผม แต่ว่าพวกเราไม่เลือกเองมากยิ่งกว่า

อีกหนึ่งคอนเซปต์สำคัญของฮัลค์ก็คือ ความเดียวดายแล้วก็โดดเดี่ยว เนื่องจากว่าเขาจำต้องอยู่ลำพังผู้เดียวยังไงครับผม อยู่ห่างคนอื่นๆให้ไกลที่สุด เพื่อผู้อื่นจะได้ไม่มีอันตราย ถ้าหากจะเกิดเหตุร้าย กำเนิดความโกรธจนถึงฮัลค์ออกก่อกวนก็ขอให้มันฟาดต้นไม้แล้วกัน อย่าฟาดผู้อื่นให้ตกที่นั่งลำบากเลย

ทำให้การเดินทางของฮัลค์ในซีรี่ส์แต่ละตอน มักเป็นว่าเขาไปยังเมืองหนึ่งกะว่าจะหาทางรักษาตัวเองและก็ตั้งภูมิลำเนา อยู่แบบไม่เคยรู้คนใดและไม่มีคนไหนกันแน่รู้จักไปเรื่อยแม้กระนั้นจนแล้วจนรอด ทุกเมืองก็ควรมีคนร้ายหรือไม่ก็อันธพาลมาก่อกวนความเงียบสงบของคนเมือง

แบนเนอร์เองเลยทนไม่ไหว ออกโรงในฐานะฮัลค์ไปซัดพวกมันจนกระทั่งเรียบวุธ แล้วเพียงพอทั้งหมดทุกอย่างจบลง แบนเนอร์ก็จำเป็นต้องออกมาจากเมืองไป ไปยังเมืองอื่นๆถัดไป ทำนองว่าจะหาเมืองสงบสักที่ ที่ๆเขาไม่ต้องแปลงเป็นฮัลค์น่ะขอรับ (แม้กระนั้นมันมีที่ใดล่ะ) มึงก็ไปอย่างนี้เรื่อยกระทั่งซีรี่ส์จบน่ะล่ะ จนแล้วจนรอดก็ควรจะเป็นฮัลค์อยู่ดี

พอเพียงมาเจอกับ ‘The Incredible Hulk’ หนังที่เล่าราวถัดมา

The Incredible Hulk (2008) เต็มเรื่อง

ตอนนี้ไม่ต้องเกริ่นอะไรมากไม่น้อยเลยทีเดียวอีกแล้ว เริ่มเรื่องมาก็บันเทิงใจรวมทั้งมันไปกับซูเปอร์วีรบุรุษตัวใหม่ที่ยังมิได้เป็นเต็มกำลัง เขายังคงค้นหาตนเองอยู่ด้วยการหนีไปซ่อนตัวอยู่ในเมืองที่ยัดเยียดในบราซิล พากเพียรประพฤติตนให้ตามหาได้ยากที่สุด เวลาเดียวกันก็เฝ้าค้นหาเพื่อรักษาอาการที่(เขารู้สึกว่ามัน)ปะปนนั้นให้หายด้วยการติดต่อกับบุคคลนาม Mr.Blue อย่างลับๆก่อนที่จะนำพาเขากลับไปอยู่ที่บ้านอีกที

The Incredible Hulk (2008) เต็มเรื่อง มีส่วนช่วยในการวิวัฒนาการของตัวละครของบรูซ แบนเนอร์ภายใน MCU แม้ว่าการแสดงของเอ็ดเวิร์ด นอร์ตันจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่บทบาทของมาร์ค รัฟฟาโลในภาพยนตร์เรื่องต่อๆ มาก็ได้สำรวจการต่อสู้ภายในของแบนเนอร์ ความฉลาด และความสัมพันธ์ระหว่างแบนเนอร์กับฮัลค์เพิ่มเติม การแสดงได้รับการยกย่องในการนำความลึกและอารมณ์ขันมาสู่ตัวละคร ทำให้บทบาทของฮัลค์แข็งแกร่งขึ้นในฐานะสมาชิกคนสำคัญของอเวนเจอร์ส

ภาพยนตร์เจาะลึกแง่มุมทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับต้นกำเนิดและการเปลี่ยนแปลงของฮัลค์ โดยเน้นย้ำถึงภารกิจของแบนเนอร์ในการรักษาโรค ธีมนี้เป็นการยกย่องรากเหง้าของตัวละครในหนังสือการ์ตูน ซึ่งการทดลองทางวิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญในเรื่องราวต้นกำเนิดของซูเปอร์ฮีโร่ ประเด็นขัดแย้งทางวิทยาศาสตร์และจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการดำรงอยู่ของฮัลค์มีส่วนทำให้การเล่าเรื่องมีความลึก

แม้ว่า “The Incredible Hulk” จะถือเป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างสแตนด์อโลน

แต่สไตล์ภาพและโทนของมันก็สอดคล้องกับรายการแรกๆ ใน MCU สุนทรียศาสตร์ของภาพยนตร์ ซีเควนซ์แอ็กชัน และการผสมผสานวิชวลเอฟเฟ็กต์เข้าด้วยกัน ทำให้เกิดความต่อเนื่องของภาพซึ่งจะเป็นลักษณะของภาพยนตร์มาร์เวลภาคต่อๆ ไป ความสม่ำเสมอในรูปลักษณ์โดยรวมของ MCU ช่วยเพิ่มความรู้สึกของจักรวาลภาพยนตร์ที่ใช้ร่วมกัน

การแสดงภาพของเอมิล บลอนสกี้ของทิม ร็อธเพิ่มชั้นพิเศษให้กับพลังความเป็นปรปักษ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ความปรารถนาที่จะมีพลังและการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่น่ารังเกียจของ Blonsky ทำให้เกิดภัยคุกคามทางกายภาพที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ Hulk การต่อสู้ครั้งสำคัญระหว่าง Hulk และ Abomination ถือเป็นการแสดงการต่อสู้เหนือมนุษย์ที่น่าทึ่งภายใน MCU

“ดิ อินเครดิเบิ้ล ฮัลค์” ปูทางให้ฮัลค์เข้ามามีส่วนร่วมใน “ดิ อเวนเจอร์ส” การดิ้นรนของตัวละครในการควบคุมและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกลายเป็นส่วนสำคัญของความมีชีวิตชีวาของทีม เหตุการณ์ต่างๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกอ้างอิงถึงในภาพยนตร์ MCU รุ่นต่อๆ ไป ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดความต่อเนื่องโดยรวมและการเล่าเรื่องที่เชื่อมโยงถึงกันซึ่งกำหนดนิยามของแฟรนไชส์

เมื่อเวลาผ่านไป The Incredible Hulk (2008) เต็มเรื่อง ได้รับความชื่นชมจากฐานแฟนๆ ของ MCU แม้ว่าจะไม่ได้รับการยกย่องในระดับสากลเท่ากับผลงานอื่นๆ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการยอมรับจากการมีส่วนร่วมในการเล่าเรื่องที่ใหญ่กว่าและการสำรวจตัวละครของฮัลค์ มรดกของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่บทบาทที่เป็นรากฐานของปริศนา MCU โดยแสดงให้เห็นความพยายามในยุคแรกๆ ที่จะนำตัวละครอันเป็นเอกลักษณ์ของ Marvel มาสู่จอภาพยนตร์ในรูปแบบที่เชื่อมโยงกันและเชื่อมโยงถึงกัน

โดยสรุป “The Incredible Hulk” อาจเป็นรายการพิเศษใน MCU ที่มีการเล่าเรื่องแบบสแตนด์อโลนและนักแสดงนำที่แตกต่างกัน แต่มันก็วางรากฐานที่สำคัญสำหรับการเล่าเรื่องที่เชื่อมโยงถึงกันและการพัฒนาตัวละครที่จะกลายเป็นจุดเด่นของจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล เมื่อเริ่มขั้นตอนต่อๆ ไป ธีมและองค์ประกอบที่นำเสนอในภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงสะท้อนและกำหนดทิศทางการเดินทางของฮัลค์ภายในภูมิทัศน์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ใหญ่ขึ้น