เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา ดูหนังไม่กระตุก ดูหนังFull HD

เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา

เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา  ดูหนังออนไลน์ฟรี

เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา Mad Max หนังโคตรมัน บู้บี้แหลก ถนนหนทางแดนนรกโลกันตร์ มีหลายท่านหลงผิดมีความรู้สึกว่านี่เป็นภาครีบู๊ต แต่ว่าตรงกันข้ามเปลี่ยนเป็นว่านี่เป็นภาคต่อ เล่าอีกการเสี่ยงภัยของแมกซ์ ที่จำต้องต่อสู้กับกลุ่มสินทิเดล เขาเสียท่าโดนกลุ่มสินทิเดลจับไป แปลงเป็นจำเลยที่โดนจับไว้สำหรับให้เลือดสำรอง ฟูริโอซ่า หัวหน้าหน่วยรบของสินทิเดล

นำกองทัพขนาดเล็กไปชิงทรัพย์น้ำจากเมืองใกล้เคียง กลางทางคุณตกลงใจหนีโดยพาเหล่าแม่พันธุ์ของสินทิเดลแอบหนีไปด้วย 4 คน มีเป้าหมายเป็น กรีนเพลส ถิ่นกำเนิดของคุณ เหล่าทหารสินทิเดล เลยออกตามล่า ฟูริโอซ่า แมกซ์ ถูกผูกติดไปด้วยกับกองทัพไล่ล่า ระหว่างรบ แมกซ์ หลุดรอดได้เลยร่วมกับ ฟูริโอซ่า สมัครใจช่วยคุณหนีไปถิ่นฐานบ้านช่อง

แมกซ์ ร็อคคาแทนสกี้ โดนจับไปเป็นถุงเลือดให้พวก War Boys โดยความสามารถลูกน้องของ โจ ด้วยเหตุว่ากรุ๊ปเลือดของแมกซ์เป็น O-Negative พิเศษมากมายเพราะว่าสามารถให้ได้กับทุกกลุ่มเลยฟีเรียสซา ซึ่งเป็นบอสใหญ่ที่โจเชื่อใจมากมายเพราะเหตุว่าความสามารถแล้วก็ความแข็งแกร่ง ได้นำรถยนต์ไปขนน้ำมันที่ก๊าซทาวน์ แม้กระนั้นภารกิจนี้คุณกำลังทำคิดคดทรยศโดยการนำแม่พันธุ์ที่เป็นนางบำเรอของโจหนีไปอยู่ Green Place การตามปัจจุบันมันก็เลยเริ่มขึ้น

จอร์จ ไม่ลเลอร์ ผู้กำกับต้นฉบับกลับมารขุดงานเก่าของตนอีกรอบในวัย 70 ปี ทิ้งระยะห่างจากตรีภาคเดิม 30 ปี สามภาคแรกปลุกปั้น เมล กิ๊บสัน ให้เปลี่ยนเป็นศิลปินแถวหน้าฮอลลีวู้ดได้เสร็จ จอร์จ มั่นอกมั่นใจกับแฟนเดนตายของ mad max มากมาย ถึงกับไม่เสียเวล่ำเวลาย้อนอดีตปูพื้นของโบราณเลย มีเพียงเสียงชี้แจงสั้นๆถึงตัวตนและก็สมัยก่อนของ แมกซ์ ไม่ถึง3นาทีด้วย ต่อไปก็ไม่พูดเรื่อยเปื่อยทำเพลงล่ะ อัดฉากแอ็คชั่นกันแน่นๆยาว 2 ชั่วโมงเลย

เอกลักษณ์ ความคลาสสิค ไอเดียหลุดโลกเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา เป็นต้นแบบสร้างหนทางวิสัยทัศน์ ไว้ให้ผู้กำกับรุ่นลูกที่สร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับโลกข้างหลังสงครามโลกครั้งที่ 3 เมื่อโลกแปลงเป็นบ้านป่าเมืองโหดร้าย หนังที่สร้างข้างหลัง mad max เลยเป็นแถวนี้กันไปหมด และก็ยังมากยิ่งกว่าเพียงแค่แวดวงหนัง ไปเป็นแรงดลใจให้กับการ์ตูนคลาสสิคอย่าง หมัดทวยเทพดาวเหนือ อีกด้วย วันนี้จอร์จ ไม่ลเลอร์ผู้ครอบครองไอเดียต้นแบบกลับมาอีกที ได้ทุนสร้างมากยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต

ทั้งยังวิทยาการทางด้านภาพต่างช่วยส่งเสริมจินตนาการของ จอร์จ ไม่ลเลอร์ ต่อยอดไปได้อีกไกล ความดิบ ไม่มีอารยธรรม ยังคงอยู่ครบ ที่มากยิ่งขึ้นไอเดียประดิษฐ์ล้นหลามที่สร้างออกมาเป็นภาพให้ได้มองเห็น ชุดแปลกๆของบรรดาผู้แสดง อาวุธแปลกใหม่ เพียงแค่ฉากด้านในถ้ำของสินทิเดลพวกเราก็ได้มองเห็นบรรดาไอเดียหลุดโลกมากมายโขแล้ว หนำซ้ำในภาคนี้ยังมีหลายๆอาณานิคมมาต่อสู้กัน แต่ละกลุ่มก็มีอีกทั้งชุด ทั้งยังยานพาหนะที่มีเอกลัษณ์แตกต่างกันไปอีก ดูแล้วข้างดีไซน์นี่ดำเนินงานกันสนุกสนานมือแน่

ยานพาหนะมาในคอนเซ็ปต์เดิมที่เป็นรถยนต์เก่า เอาส่วนประกอบมาเรียงร้อยต่อกันให้มองน่ายำเกรงมากเพิ่มขึ้น คิดชั้นเชิงจู่โจมใหม่ๆขึ้นมาทำให้ฉากแอ็คชั่น รถยนต์ไล่บี้กัน ชนกันยาวๆแม้กระนั้นก็เป็นฉากที่มองสนุกสนานเอามันได้ไม่เบื่อ  เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มีโฆษณา แล้วก็ที่ชวนมองเป็นความแม่นของคณะทำงานสร้าง เพราะเหตุว่าภาคนี้ไม่ใช้ซีจีช่วย ภาพที่พวกเรามองเห็นรถชนกัน ระเบิดตูมตามนั้นเป็นภาพที่เกิดขึ้นจริง แนวทางซีจีถูกใช้เพื่อลบ เครน สลิง เครื่องใช้ไม้สอยประกอบฉากออกมาจากภาพแค่นั้น

 

เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา

 

หนังถ่ายทอดให้มองเห็นถึงมุมมองที่โลกอันทรุดโทรม ไม่มีของกิน น้ำ แล้วก็น้ำมัน, ก๊าซที่ใช้สำหรับในการขับยานพาหนะ ราวกับหนังกำลังจะถ่ายทอดในโลกอนาคตว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีช่องทางกำเนิดอะไรอย่างงี้ขึ้นก็ได้ ผู้กำกับถ่ายทอดได้ตรงประเด็นมากมายๆเพราะว่าหนังเปิดเผยให้มองเห็นความดิบรุนแรงของโลกใบนี้ตั้งแต่เริ่มเรื่องที่แม้กระทั้งแมกซ์ก็จะต้องรับประทานตัวกิ้งก่าประทังชีวิต ความน่าดึงดูดใจเป็นภูมิทัศน์รวมทั้งอากาศแบบร้อนและก็รายล้อมไปด้วยทะเลทราย รวมถึงมนุษย์ที่ชิงดีชิงเด่นชิงเด่นกันไม่รู้จักจบจักสิ้น เนื่องจากว่าความไม่รู้จะพอเพียงของผู้คนกับทรัพยากรที่มีน้อยเกินไปนั่นเอง

นางเอกเด่นมากมาย งามเก่งแถมเท่สุดๆเด่นเสมอกันกับผู้แสดงนำชายได้เลยถึงแม้หนังจะยกบทให้Max มากยิ่งกว่า เป็นCharacter ของคุณมองมีมิติ มีอะไรให้น่าติดตาม เว็บดูหนังไทย ออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง อีกทั้งในเรื่องของหน้าที่ ความรู้ความเข้าใจ แย่งบนทายใจนของดารานำชายที่ถือได้ว่าตัวนำเรื่องอย่างMax ไปเฉย แม้กระนั้นแม้ว่าจะเป็นหนังรุนแรงๆแม้กระนั้นซีนพระนางก็มีให้มองเห็นอยู่ด้วยนะ

หนังแทรกสอดเรื่องชนชั้นทางสังคม รวมทั้งสตรีบรรดาภรรยาของโจที่จำต้องทนทุกข์ แล้วก็ที่หนังไม่ลืมเลือนที่จะเสนอเป็นราษฎร คนชรา ที่อดข้าวอดน้ำรอคอยให้โจซึ่งเปรียบเหมือนกษัตริย์รอเปิดน้ำให้พวกเขามากินอปิ้งน้อยเกินไป ทำให้พวกเราได้มองเห็นถึงความเอารัดเอาเปรียบและก็สุดจะทรุดโทรมสำหรับในการดูแล หนังมานะสร้างเงื่อนให้ผู้ชมคิดตามถึงสภาวะโลกที่ป่าเถื่อนที่มีหัวหน้าที่เปรียบซาตาน ได้คิดตามว่าเพราะเหตุไรแมกซ์จำเป็นต้องรอหนีหัวซุนจากการไล่ล่า แะสิ่งที่จำเป็นอย่าง Green Place เป็นอย่างไรเพราะเหตุใดถึงเป็นสถานที่ที่คนไม่ใช่น้อยต้องการจะไปอยู่

หนังดำเนินเรื่องเร็วแถมมีฉากAction มันกระจัดกระจายประเภทที่ไม่คิดจะให้คนได้พักหายใจกันบ้าง แล้วก็ที่เป็นเอกลักษณ์ของหนังประเด็นนี้เป็นเมื่อหยุดรถยนต์จำเป็นต้องดึงพวงดอกไม้ออก ถ้าหากจะขับก็ค่อยเอามาใส่ใหม่ ไม่ถูกกับสมัยปัจจุบันนี้ที่ให้ความเอาใจใส่กับกุญแจมากยิ่งกว่า เลยทำให้เกิดความรู้สึกว่าหนังมีอะไรแจ๋วๆแล้วก็แปลกใหม่หลายประเภท ทั้งยังบู๊มัน ค่าของชีวิต ความแตกต่างและก็การปกครอง ดูหนัง

ธรรมดาจะถูกใจดูหนังที่มีความพิเศษ หนังที่ดูแล้วกลั่นออกมาจากความมุ่งมั่น เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา  ความหลงใหลของคนสร้าง ดูแล้วจะเข้าใจดีแล้วว่าเป็นหนังดีMad Max:Fury Road เป็นหนังที่เป็นความอึดอัดใจ ความหลงใหลในจินตนาการที่สรรสร้างขึ้นมาเป็นเวลายาวนานกว่า 30 ปี ของ George Millers ตั้งแต่แมื่อที่สร้าง Mad Max:Beyond Thunderdome ตั้งแต่ยุค 1985

เคยได้ยินข่าวมาว่ากว่าภาค Fury Road จะออกฉายจะต้องถูกเลื่อนต่อไปๆบ่อยมาก ไม่ว่าจะมีปัญหาที่หนังทำงบประมาณจนกระทั่งเกินทุนบ้างแล้ว ยื่น footage ให้ Warner Bros มองกระทั่ง producer ยอมปันจิตใจอัดฉีดงบประมาณให้อีก และก็ปัญหาเรื่องการตัดต่อบ้างมีการถ่ายทำแก้บ่อยครั้ง ลองนึกดูหนังที่ผู้ผลิตได้ให้โอกาสใส่จินตานาการความนึกคิดของเขาได้สุดกำลัง ทั้งยังได้รับการช่วยสนับสนุนเงินลงทุน แล้วก็ได้ rated R อีกต่างหาก กว่าที่ในขณะนี้หนังจะมาออกฉายได้ ถ้าเกิดไม่รัก ไม่ตั้งใจ ไม่ลุ่มหลงของ Millers ก็ไม่รู้เรื่องจะกล่าวอย่างไร

มาภาคนี้ Millers เอาความอึดอัดใจนั้น โกรธเบิดตูมๆๆๆๆใส่ผู้ชมอย่างเต็มสตรีม ต่างหากที่เป็นความพิเศษที่ผมพบตอนที่มอง Mad Max:Fury Road แล้วก็จำต้องบอกเลยว่าหนังบ้าประเด็นนี้มันสุดติ่ง วินาศสันตะโรจริงๆGeorge Millers นับเป็นผู้กำกับที่เหนือชั้นมากมาย รวมทั้งเห็นด้วยว่ามึงเป็นคนทำหนังจำพวกนี้ได้เก่งทีเดียว (ถ้าหากไม่นับกับที่เคยมัวแต่ไปทำหนังเพนกวินเต้นได้อย่าง Happy Feet นะ)

สำหรับบทเดินเรื่อง Mad Max:Fury Road จะมิได้เน้นย้ำหรือเด่นอะไรเท่าไรนัก ไม่มีพล็อตที่สลับซับซ้อน ลึกลับซับซ้อน ชิงไหวชิงพริบอะไร เรื่องราวโดยประมาณก็คือการนางเอก (Charlize Theron) แสดงเป็น Furiosa มาช่วยเหล่า The Brides หรือเหล่าขี้ข้าสาวแม่พันธุ์ของดินแดนเมืองนรกหนึ่ง ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของ Immortan Joe(Hugh Keays-Byrne) รวมทั้งลูกสมุน เพื่อไปพบที่ที่ใหม่ ที่ดีมากยิ่งกว่า ท่ามกลางโลกที่ล่มสลาย ที่ต่างคนต่างคลุ้มคลั่งฉกชิงน้ำมัน น้ำที่มีอยู่ ซึ่ง Furiosa ก็ได้รับการช่วยเหลือจาก Max (Tom Hardy) จากทำการกระตุกหนวดยักษ์นี้

กว่า 70-80% ของเรื่องเป็นฉากการขับรถยนต์ไล่ล่าอย่างสม่ำเสมอของกองกองทัพ Immortan Joe ไล่ล่ากับแก้งค์ Max/Furiosa เพื่อชิงตัว The Brides กลับมา สำหรับบทสำหรับพูด dialog หนังประเด็นนี้จะมีไม่มากมาย เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา  เนื่องจากว่าหนังจะย้ำการเล่าเรื่องด้วยภาพ เล่าด้วยเหตุต่างๆที่เกิดขึ้น แล้วก็ผมรู้สึกว่านี่เป็นหัวใจหลักของหนังแอ็คชั่นไม่ใช่หรือ

หนังแอ็คชั่นที่ควรจะตอบหัวใจทย์ของการขับเขยื้อนอารมณ์โดยไม่ต้องมีบทสนทนามาก เพียงแค่สิ่งที่มองเห็นข้างหน้าแล้วให้ผู้ชมอ้าปากหวอได้ และก็ลุ้นระทึกไปกับหนัง มันก็ดีเลิศสำหรับหนังแอ็คชั่นแล้ว แล้วก็ Mad Max ทำจุดนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมมากมาย หากแม้หนังหัวข้อนี้จะไม่ย้ำประเด็นการเดินเรื่อง แต่ว่าตัวร้ายถือว่าน่าสยอง น่ายำเกรง ไม่กิ๊กก็อกราวกับหนังบางเรื่องแถวนี้ รวมทั้งถึงแม้ว่า plot เรื่องไม่มีอะไรมากมาย แต่ว่าหนังก็ถูกกลบจุดด้วยด้วยการแสดงเข้าขั้นของดาราหนังต่างๆ

สิ่งที่ทำให้อ้าปากหวอจริงๆเป็นฉากแอ็คชั่น เอฟเฟคเสียงซาวด์แทรก ที่กระตุ้นอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยมไปกับเรื่อง แนวทางการถ่ายทำที่เกิดขึ้น มันช่างอลัง งดงามอย่างยิ่ง โดยสาเหตุมาจากที่ว่าหนังสร้างด้วยการใช้ลูกเล่นเอฟเฟค ที่เกิดขึ้นมาจากการกวนแสดงจริงๆรถยนต์ก็ของแท้ มีคนแสดงหวาดเสียวจริง ใช้ซีจีน้อยแล้วก็ใส่สีจัดๆมันทำให้ดูแล้วเหมือนจริง และก็สวยมากมายๆหลายหนที่อดไม่ได้กับการยกย่องไปกับงานศิลปในตัวหนัง พร้อมๆกับลุ้นระทึกไปกับหนังด้วย (ตอนมองก็คิดไปว่าระหว่างที่การถ่ายทำมีผู้เสียชีวิตบ้างไม่เนี่ย เพราะว่าฉากหวาดเสียวหลายฉากมันหวาดเสียวมากมาย

และก็นี่เป็นสิ่งที่หายไปสำหรับหนังแอ็คชั่นโดยมากในยุคนี้ ที่คนภายในแวดวงคนจำนวนไม่น้อยต่างก็เพลิดเพลินเจริญใจหลงไปกับ CGI ไปเน้นย้ำกับการวางพล็อตที่เอาอกเอาใจ fanbase มากมายไป จนกระทั่งลืมไปว่าก่อนหน้าที่รุ่นบิดารุ่นแม่ดูหนังบันเทิงใจกันมันทำไม หรือที่หนังในตำนานหลายเรื่อง ที่ในขณะนี้ถือมาดูอีกรอบมันก็มองได้บันเทิงใจอยู่ George Millers เคยสร้าง Mad Max:Road Warrior ให้เป็นหนังแอ็คชั่นบรมครู ที่หนังหลายเรื่องในปัจจุบันนี้ต่างจับมาใช้กัน มาวันนี้ George Millers กลับมาอีกทีแล้วก็มาทำ Mad Max Fury Road เป็นบรรทัดฐานใหม่สำหรับหนังแอ็คชั่นในอนาคต เพื่อมาย้ำเตือนสิ่งที่หนังปัจจุบันหายไป กลับมาเติมเต็มอีกที

คะแนนเรื่องราว 10/10 ส่วนตัวค่อนข้างจะถูกใจมากมายจนถึงจะต้องเอาขึ้นหิ้งไว้เลยขอรับ หนังอัดฉากบู๊กันตั้งแต่ต้นเรื่องจนกระทั่งด้านหลังเรื่อง บันเทิงใจจำพวกลืมหายใจ สรุปว่าแม้กระนั้นได้มองเห็นยานพาหนะในเรื่องที่โคตรดิบรุนแรงแล้วก็หนำใจสุดๆหนังครบทุกรสจริงๆพูดได้ว่ายิงปืนนัดหมายเดียวได้นก3 ตัวเลยครับผมเป็น ฉากบู๊ แง่คิดแล้วก็ความแปลกใหม่

 

The Guilty

รีเมคจากอันเก่าเดนมาร์กปี 2018 ในชื่อ Den Skyldige (ชื่อสากลชื่อเดียวกัน) แนวดราม่าทริลเลอร์เรื่องราวของข้าราชการรับสาย 911 ที่มีความพิเศษตรงหนังเล่นกับจุดนี้ยาวผู้เดียวจนกระทั่งสิ้นเรื่อง โดยได้เจค จิลเลนฮอล มารับบทหลัก และก็ยังเป็นโปรดิวเซอร์ของหัวข้อนี้ด้วย ร่วมกับผู้กำกับ Antoine Fuqua จาก The Equalizer อีกด้วย

ความที่ต้นฉบับเรื่องปัดกวาดรางวัลกับข้อคิดเห็นเยี่ยมที่สุดไปๆมาๆกมายทั้งยังจากนักวิพากษ์วิจารณ์แล้วก็ผู้ชม จากความพิเศษของเรื่องที่ผู้แสดงนำเป็นโอเปอเรเตอร์รับสาย 911 ใช้บทสำหรับพูดตอบโต้กับสายที่โทรมาเป็นตัวสนับสนุนเรื่องราวสิ่งเดียวไปกระทั่งจบ โดยไม่มีฉากนอกสถานที่มาเกี่ยวเนื่องเลย ซึ่งนับว่าแปลกใหม่มากมายกระทั่งทำให้ดารายอดความสามารถอย่าง  เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา เจค จิลเลนฮอล ซื้อมารีเมคใหม่แล้วก็รับบทบาทนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นอะไรที่ประจวบเหมาะพอดีมากมาย

เรื่องเริ่มจาก โจ เบย์เลอร์ ตำรวจที่ถูกโยกย้ายมาดำเนินงานรับสาย 911 ได้รับสายจากหญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในอันตรายรุนแรง จากการเช็ดกลักพาตัวโดยสมัยก่อนผัว เขามานะช่วยคุณผ่านการสืบเบาะเท่าที่มีจากการพูดคุยกัน โดยที่ไม่คาดคิดว่าเรื่องราวทั้งผองจะทำให้เกิดผลเสียครั้งใหญ่กับชีวิตของเขาด้วยหนังแนวใช้นักแสดงน้อยหรือเล่นผู้เดียวในที่จำกัดจนถึงหมดเรื่องบางทีอาจจะมิได้แปลกใหม่อะไรมากมาย ในอินเตอร์เน็ตฟลิกซ์เองก็มีมาแล้วหลายเรื่องอย่าง ออกสิเจน (Oxygen) ของผู้กำกับ อเล็กซานเดอ อาจา

ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต American Son หนังจากละครกระดานเวย์ตามที่เน็ตฟลิกซ์ถอดจากละครเวทีมาลงโรงตรงๆทั้งยังเรื่องมีฉากเดียวกับคน 4 คน ซึ่งการเล่นกับนักแสดงในที่จำกัดก็เป็นความจำกัดของหนังแนวนี้ที่จำเป็นต้องพากเพียรสร้างอะไรสักอย่างขึ้นมาเป็นตัวแปรแทรกให้นักแสดงพบฉากสถานะการณ์กระตุ้นๆเพื่อล่อใจผู้ชมให้รู้สึกมีอะไรมากยิ่งกว่าแค่นั่งดูผู้แสดงพูดไปเรื่อยๆแต่ว่ากับประเด็นนี้ออกจะผิดแผกแตกต่างออกไปเมื่อทุกสิ่งเป็นเพียงแค่เสียงเรื่องเล่าล้วนๆตั้งแต่ต้นจนถึงหมดเรื่อง และก็เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็มิได้มองเว่อร์เกินจริง

เรียกว่าเป็นเคสรับสาย 911 ที่คงจะเกิดขึ้นได้ตามเดิม ผู้แสดงเสวนากันไปเรื่อยก่อนเบาๆคลายเงื่อนเรื่องราวที่จริงจริงมาครั้งละนิด บทพูดในเรื่องถูกเขียนมาดี มองบันเทิงใจได้ไม่ใช่หนังที่เน้นย้ำกล่าวๆๆจนกระทั่งน่าระอา อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการบิ้วให้เรื่องราวมีหักมุมนิดๆอยู่ บ้าง แต่ว่าก็ไม่ใช่สารหรือหัวใจหลักของหัวข้อนี้สิ่งที่ดีเลิศของข้อเท็จจริงๆเป็นการแสดงอันทรงประสิทธิภาพของ

เจค จิลเลนฮอล กับบทข้าราชการ 911 เฉพาะกิจ ซึ่งหนังเปิดเผยให้มองเห็นเบื้องหน้าเบื้องหลังงานนี้แบบละเอียดกับหน้าที่ความรับผิดชอบที่หนักมากมายกับการรับสายทั้งยังป่วนปั่นทั้งยังด่วนจริง ทั้งจะต้องใช้จิตวิทยาเสวนา วาทะศิลป์แบบนักพูดจาโน้มน้าว เซนส์ส่วนตัวประเมิที่ความรุนแรงของสายที่โทรศัพท์เข้ามา เพราะเหตุว่านี่เป็นการรับผิดถูกใจชี้เป็นชี้ตายชีวิตคนภายในช่วงเวลานั้นได้เลย แต่ว่าที่กล่าวมากลับมิได้อยู่ในตัวบท โจ เบย์เลอร์ ที่เจคเล่นเลย

ตัวหนังเปิดเรื่องมาก็ทำให้พวกเรามองเห็นความไม่และในด้านทัศคติกับความเป็นมือโปรในงานที่ทำ โจรังเกียจงานนี้ออกแนวเบื่อทนต้องการหลุดพ้นออกไปเร็วๆกระทั่งระรานถึงเพื่อนผู้ร่วมการทำงานที่เข้ามาถามข่าวดีๆก็ถูกตวาดกลับไป เขามีความเคร่งเครียดส่วนตัวจากเรื่องอะไรบางอย่างที่ตัวเรื่องเปิดเผยให้มองเห็นในขั้นแรกกับสายจากผู้รายงานข่าวโทรมาหาแต่ว่าเขาปฏิเสธรวมทั้งคุยด้วย ก่อนที่จะหนังจะเปิดเงื่อนชีวิตของเขาว่า โจแยกกันอยู่กับเมียมา 6 เดือน มีลูกสาวตัวน้อยที่เขานึกถึงมากมาย ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต

ตัวเรื่องเล่าผ่านการแอบโทรศัพท์หาเมียขณะที่กำลังทำงาน จนถึงเปลี่ยนเป็นการทะเลาะวิวาทกับเมียในเวลาถัดมา เป็นการเปิดเผยให้มีความคิดเห็นว่าผู้แสดงนี้สั่งสมความเคร่งเครียดมานานแล้วจนถึงใกล้แบกรับไม่ไหวแล้ว แต่ว่าเขากลับจะต้องมาปฏิบัติงานรับสายที่จุดหมายหวังว่าจะให้ช่วย เป็นอะไรที่ออกจะย้อนแย้งกันเยอะพอสมควร รวมทั้งตัวเรื่องก็ใช้จุดนี้แหละผ่านการแสดงของเจคที่อีกทั้งเรื่องเต็มไปด้วยความตึงเครียดกระทั่งระบาย+ระเบิดอารมณ์ใส่ข้าราชการข้างอื่นที่เขาติดต่อด้วยให้ช่วยแต่ว่าไม่ทันใจ ซึ่งผู้ชมก็จะต้องมีความรู้สึกว่าหมอนี่ไม่ใช่ตัวนำดีๆเยอะแค่ไหน

หนังทุนต่ำแนวเล่นผู้เดียวของ เจค จิลเลนฮอล เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา  ที่ได้บทพูดเกรดเอร่วมกับการแสดงแบบอินหมดใจของเขา จนกระทั่งทำให้แปลงเป็นหนังที่ทรงประสิทธิภาพกระเทือนจิตใจผู้ชมได้ไม่มากมายก็น้อยกับเรื่องราวโศกการละครที่เกิดขึ้นแบบเป็นเคสจริงได้ผ่านการรับสายด่วน 911 แม้กระนั้นถ้าเกิดผู้ชมมุ่งหวังหนังที่บทเว่อร์ มีความเย้ายวนใจแบบเกินจริงคงจะผิดจริตกับแนวหนังอย่างนี้

 

The Power Of The Dog

เรื่องราวทั้งปวงเริ่มในปี คริสต์ศักราช1925 ที่ไร่แห่งหนึ่งในเมืองมอทานา ผู้ครอบครองไร่ 2 ลูกพี่ลูกน้อง Burbank ที่นิสัยแตกต่างกันสุดขีด คนพี่เป็น Phill Burbank (Benedict Cumberbatch จาก Dr.Strange) นิสัยห่าม ขวางโลก อีโก้เก๋จัด ถูกใจกดขี่ข่มเหงผู้อื่น แล้วก็โสโครก ส่วนคนน้องเป็น George Burbank (Jesse Plemons จาก Breaking Bad) ที่มีนิสัยยอมคน อ่อนน้อมถ่อมตน สะอาดหมดจด แต่งตัวดี ใจดี รวมทั้งใจเย็น ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเริ่มขึ้นเมื่อ George คนน้อง ได้ไปพบรักกับแม่หม้ายลูกติด Rose (Kirsten Dunst จาก Spider-Man)

แล้วก็ลูกคุณ Peter (Kodi Smit-McPhee จาก X-Men) Rose เป็นเจ้าของห้องอาหารที่อยู่ในระแวกนั้น ก็เลยตกลงใจสมรสกัน พร้อมด้วยเชิญคุณแล้วก็ลูกมาอยู่ร่วมกันกับเขา ซึ่งมีฟิลพี่ชายของเขาอาศัยอยู่ด้วย รวมทั้งดูเหมือนกับว่าฟิลจะไม่สบอารมณ์และไม่ถูกใจแม่ลูกคู่นี้ จนถึงฟิลได้เริ่มกระทำกดขี่ข่มเหงแล้วก็รุกรามสองแม่ลูก ท้ายที่สุดแล้วจะจบยังไง ไปดูได้ทาง Netflix มีบรรยายไทยด้วย คนใดกันยังไม่มองรีบไปดูก่อนค่อยมาอ่านต่อ ส่วนผู้ที่มองจบแล้ว งงเต็กที่ไหนก็มาอ่านเนื้อหานี้ได้เลย เนื่องจากว่าหนังมันออกจะมีเนื้อหาเยอะแยะ แม้กระนั้นเรื่องราวมองง่ายมิได้ยากขนาดนั้น

นี่เป็นหนังปรับเปลี่ยนมาจากนิยายคาวบอยสุดคลาสสิกของ “โธมัส ซาเวจ” ที่พิมพ์คราวแรกออกมาในตอนสมัยปี 1960 ด้วยรายละเอียดที่แยบคายอย่างดีเยี่ยม มาผ่านการกลั่นกรองเป็นบทหนังด้วยความสามารถของผู้กำกับหนัง “เจน แคมเปียน” ด้วยตัวเอง นี่ก็เลยเปรียบได้เสมือนดั่งเป็นการนั่งดูดราม่าเข้มข้นที่ร้อยเรียงออกมาเป็นประพันธ์เพราะว่าๆที่มีได้เป็นเชิญชวนง่วงซึมแม้แต่น้อย กลับสร้างความเอาจริงเอาจังและก็ประทับใจไปในทุกๆนาที

ดัดแปลกจากนิยายชื่อเดียวกันแคมเปียนเขียนบทปรับเปลี่ยนจากนิยายชื่อเดียวกันของ โธมัส ซาเวจ (Thomas Savage) พื้นข้างหลังเป็นปี 1925 ในฟาร์มปศุศัตว์ของเมืองมอนทานา ที่มีพี่ชาย ฟิล (คัมเบอร์กางตช์) และก็น้องชาย จอร์จ (เจสซี พลีมอนส์ – Jesse Plemons) สองญาติพี่น้องที่มีนิสัยแตกต่างกันอย่างเต็มที่ ฟิลเป็นคนใจร้อน ถูกใจพูดจาถากถาง แล้วก็วางโตหนยิ่งใหญ่อยู่เสมอเวลา ระหว่างที่จอร์จเป็นคนพูดน้อย เฉย สุภาพ จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญเกิดขึ้นเมื่อจอร์จตกลงใจสมรสกับโรส (เคียร์สเต็น ดันสต์ Kirsten Dunst) แม่ร้างที่สามีฆ่าตัวตาย ที่เมื่อคุณย้ายมาอยู่บ้านเดียวกัน ก็เปลี่ยนเป็นไม้เบื่อไม้เมากับฟิล

งานสร้างรวมทั้งวิสัยทัศน์สำหรับเพื่อการถ่ายทอดหนังหัวข้อนี้ของ เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา  เจน แคมเปียน ยังทำออกมาได้น่าทึ่ง เห็นได้ชัดว่าคุณตั้งใจในเกือบจะทุกๆเนื้อหาของเนื้อหนัง ต่อให้ฝุ่นละอองบางๆลอยผ่านกล้องถ่ายภาพก็ยังสัมผัสได้ถึงความเอาใจใส่อย่างดีเยี่ยม มุมภาพของหนังประเด็นนี้ค่อนข้างจะดียอด ยกฐานะรวมทั้งโทนของหนังดราม่าขึ้นได้อีกเป็นกอง หากว่าหนังจะซ่อนเร้นหัวข้อให้ขบคิดพินิจพิจารณาตามไปบ้างสักนิดสักหน่อย แม้กระนั้นก็ไม่ใช่หนังที่จำเป็นต้องมานั่งตีปัญหาให้ปวดศีรษะอะไร

ด้วยความยาวสองชั่วโมงเต็ม ‘มิได้เดินเรื่องด้วยพล็อตที่หวือหวา แต่ว่าเดินเรื่องด้วยความเจริญรวมทั้งความเกี่ยวเนื่องของนักแสดงทั้งยังสี่คน โทนหนังเป็นดราม่าเข้มข้นที่มองนิ่ง เย็นเยือก กลับมีพลังในทุกฉาก จนถึงฉากไคลแม็กซ์ก็ยังพรีเซนเทชั่นออกมาแบบไม่เค้น สอดคล้องกับบรรยากาศธรรมชาติแบบบ้านนอกของหนังที่มีเพียงแต่เทือกเขา ท้องทุ่ง แม่น้ำ ม้า โค แล้วก็หมา

ซึ่งเมื่อผ่านการควบคุมภาพของอารี เวกเนอร์ (Ari Wegner) ก็แปลงเป็นงานศิลปะชั้นยอดเยี่ยม ภาพงามตรึงตราทุกฉาก เวลาเดียวกันก็แอบซ่อนความหมายแฝงไว้อยู่บ่อย คล้ายกับ ‘The Piano’ ที่แคมเปียนใช้แนวทางใส่สัญญะเอาไว้ในการดูแลภาพด้วยเหมือนกัน เมื่อบวกกับดนตรีประกอบของจอนนี กรีนวูด (มือกีตาร์จาก Radiohead) ที่ย้ำการใช้งานเครื่องสายที่สร้างความระทึกใจแล้วก็ว้าวุ่นใจได้ไปพร้อม ที่สำคัญเป็นมาแบบน้อยๆไม่เปิดเผย แต่ว่ามาถูกจังหวะทุกคราว

หลักสำคัญในหนังมีการเอ่ยถึงการยินยอมรับเพศช่องทางในยุคนั้น แต่ว่าก็มิได้ตีความหมายออกมาเสมือน ‘Brokeback Mountain’ ของอั้งลี่ (Ang Lee) ที่มีตัวละครและก็เบื้องหลังคล้ายกัน แม้กระนั้น ‘The Power of the Dog’ มีสารที่กว้างกว่าเรื่องรักร่วมเพศ แม้กระนั้นยังเอ่ยถึงการค้นหาแล้วก็สารภาพตัวเอง การไม่ปล่อยวางจากอดีตกาล รวมถึงความหมายที่จริงจริงของผู้ชายเพศ โดยสะท้อนออกมาให้ผู้ชมมองเห็นแบบลางเลือน หลายเงื่อนในเรื่อง (และก็เงื่อนสำคัญในตอนสุดท้าย) ผิดคลี่คลาย ปลดปล่อยให้ผู้ชมได้นำไปคิดต่อเอาเอง แต่ว่าก็ไม่ใช่หนังที่มองยากหรือจะต้องอาศัยขั้นตอนการทางความนึกคิดอะไร

ความแหลมคมคายของบทหนังประเด็นนี้สร้างความซาบซึ้งมหาศาล สามารถบิวท์ค้างแรกเตอร์ทุกๆตัวออกมาได้อย่างมีมิติ โดยยิ่งไปกว่านั้นบท ฟิล เบอร์ธนาคาร ตัวนำของเรื่อง ที่จำต้องหามและก็แอบอะไรหลายๆอย่างเอาไว้ท่ามกลางชีวิตที่มั่นคงของตนเอง นักแสดงนี้ผู้ชมบางทีอาจเกลียดนิสัยเขาสักเท่าไหร่ แต่ว่าก็เปลี่ยนเป็นค้างแรกเตอร์ที่ทำให้เกิดความรู้สึกชิงชังไม่ลง เมื่อผู้ชมได้ตามไปพบกับลำนำแล้วก็แก่นที่แท่นจองผู้แสดงนี้

ดารา 4 คนภายในเรื่องหามหนังได้เป็นอย่างดี  เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา ทั้งยังยังมีกลุ่มดาราหนังที่สะดุดตายกชุดเลยก็ว่าได้ “เบเนดิคต์ คัมเบอร์กางตช์” ที่ถือเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่สำหรับเขา จากชายหนุ่มผู้ดีอังกฤษจำเป็นต้องแปลงโฉมมาเป็นคาวบอยนิสัยหยานโลนถิ่นอเมริกา เป็นที่ยอมรับว่าเลยว่าเขาถือกุญแจสำคัญของหนัง และก็สามารถหามหนังอีกทั้งเรื่องเอาไว้ได้อยู่มือ อีกทั้งการสื่ออารมณ์ สีหน้าท่าทางแววตา ทุกก้าวย่างสื่อความหมายเยอะไปหมด การแสดงของเขาในประเด็นนี้เข้าขั้นประสิทธิภาพ

ตอนที่ผู้แสดงอีกผู้ที่เป็นม้านอกสายตา “วัวดี้ สมิต-แมคฟี” อดีตกาลดาราหนังเด็กที่พวกเราคุ้นตาเขามาบ้างจากหนังหัวข้อต่างๆแม้กระนั้นในหนังประเด็นนี้จัดว่าเขาได้ยกฐานะมาตรฐานการแสดงขึ้นไปอีกรอบ ถ่ายทอดแอคติ้งออกมาในแบบอย่างน้อยแม้กระนั้นมากมายด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่เล็ก เปลี่ยนมาเป็นการแสดงที่สัมผัสได้ถึงความเข้นข้น ทั้งยังสีหน้าท่าทางรวมทั้งแววตาที่สร้างมิติให้กับติดอยู่แรกเตอร์ของเขาได้อย่างดีเยี่ยม

หนังยังมี “เคียร์สเต็น ดันสต์” รวมทั้ง “เจสซี่ พลีมอนส์” ที่ก็แบกรับรวมทั้งถ่ายทอดค้างแรกเตอร์ของตนเองออกมาได้ดีเยี่ยมที่สุดอย่างเดียวกัน เป็นหากจะให้ดาราชุดนี้เข้าชิงทุกๆสาขารางวัลทางการแสดงก็มีความน่าจะเป็นไปได้สูง จะไม่สนเท่ห์ใจเลยถ้าหาก จะมีนักนำแสดงอีกทั้ง 4 คน ชิงรางวัลพร้อมทุกคน เนื่องจากว่าผลที่พวกเขาทำออกมานั้น…ใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง

สมกับหนังที่ได้รางวัลเยอะมาก นังอีกทั้งเรื่องเกือบจะเล่นกันอยู่สี่คน ซึ่งจะไม่ฉงนใจถ้าทั้งยังคัมเบอร์กางตช์, พลีมอนส์, ดันสต์ รวมทั้งสมิต-แม็กฟี จะได้เข้าชิงรางวัลผู้แสดงแบบชูกลุ่ม ผู้ที่น่าจับตาที่สุดเป็นคัมเบอร์กางตช์ที่กลับมาท็อปฟอร์มด้านการแสดงอีกรอบภายหลังที่เคยได้เข้าชิงออสการ์จาก ‘The Imitation Game’ (ภายหลังที่เขาไปสู่จักรวาลมาร์เวล ก็ไม่ค่อยมีงานแบบงี้ให้มองเห็น) อีกผู้ที่น่าจับตาดูหนีไม่พ้น เจน แคมเปียน ที่เคยอกหักจาก ‘The Piano’ ไปเมื่อ 28 ปีกลาย (ในเวลานั้นคุณได้รางวัลบนภาพยนตร์เริ่มแรกดีเลิศ) ไม่แน่ว่าออสการ์ต้องการจะมอบโอกาสคุณอีกทีสำหรับเพื่อการเอารางวัลออสการ์ผู้กำกับ (หญิง) ดีที่สุด

งานรูปออกมาได้อย่างงดงาม เหมาะสมกับโทนรวมทั้งเรื่องราวของหนัง betflik dc  การวางแบบนักแสดงก็ทำออกมาก้าวหน้าจริงๆอีกทั้งรูปร่างหน้าตาสไตล์การแต่งตัว ทำออกมาได้เหมือนจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้แสดงฟิล ที่เป็นตัวละครที่โสมม เปรอะเปื้อน ไม่อาบน้ำ ซึ่งกลุ่มเมกซ์อัพแต่งออกมาเสมือนคนเปรอะเปื้อนจริงๆงานภาพก็ถ่ายออกมาก้าวหน้า

มีความเป็นคาวบอยอยู่สูงมากมาย ราวกับอยู่ในปี คริสต์ศักราช1925 จริงๆให้ความดิบสมจริงสมจัง ทุกสิ่งทุกอย่างมันมองเอาจริงเอาจังไปหมด บวกกับเพลงรวมทั้งเสียงประกอบที่มิได้ใส่มามากไม่น้อยเลยทีเดียวล้นหลาม เน้นย้ำความดิบเหมือนจริง ส่งอารมณ์ของผู้แสดงให้ผู้ชมได้เสพกันแบบเต็มๆทำให้อารมณ์ของผู้ชมหนังมันมากขึ้นอีก ดราม่าหนักๆเข้มๆเต็มที่ในช่วงเวลา 2 ชั่วโมงเต็ม เสมือนการได้มองผลงานศิลป์ชิ้นโบว์แดง บอกเลยว่าห้ามพลาดจริงๆ

และก็นี่น่าจะเป็นหนังเรื่องแรกในรอบปีนี้ที่แทบหาที่ติเตียนที่ไหนมิได้เลย  เว็บไซต์ ดูหนัง ไม่มี โฆษณา แม้ว่าจะเป็นแค่เพียงหนังดราม่าขาๆมองช้าๆแต่ทรงอำนาจในทุกฉากที่ได้พิจารณาออกมา ไม่สนเท่ห์ใจนักที่ดูเหมือนจะทุกสถาบันช่วงนี้ได้ถือเอาชื่อของหนังประเด็นนี้ไปวางไว้เป็นตัวเก็งรางวัลออสการ์กันแล้ว ด้วยเหตุว่าพวกเราก็มั่นใจว่าอย่างมากว่า รางวัลภาพยนตร์ดีของออสการ์ต้นปีหน้า ต้องมีชื่อ ของหนังประเด็นนี้เด่นอยู่ด้วยแน่ๆ