เมซรันเนอร์ 3
เมซรันเนอร์ 3 รีวิว Maze Runner The Death Cure เมซ รันเนอร์ ไข้มรณะ | ปิดสามภาคจัดแอคชั่นเชิญลุ้นความน่าสนใจของหนังที่มีภาคต่อก็คือ การที่ต้องติดตามและก็รอ ในเรื่องที่หนังมีอะไรให้น่าติดตามและก็ค้นหาคำตอบที่ขาดหาย มีหนังจากหนังสือหลายเรื่องที่เดินทางสู่เป้าหมายได้สำเร็จ แล้วก็ ‘เกมล่าปริศนา’ เมซรันเนอร์3 คือหนังชุดที่ถูกสร้างเป็นสามภาคได้สำเร็จท้ายที่สุด วันนี้ ผมได้พบกับ ‘Maze Runner The Death Cure’ ภาคที่สามที่เป็น
ข้อสรุปของ ‘The Maze Runner’ ภาคแรกและ ‘The Scorch Trials’
ภาคลำดับที่สองหากแม้หนังจะยังไม่ยินยอมจบเท่านั้น คนเขียนยังคงเ่ล่าเรื่องราวก่อนหน้า แต่ในมุมมองของการเล่าเป็นไตรภาค มันได้เดินมาถึงข้อสรุปแล้ว ปริศนาที่ทุกคนรอคอยจะได้เจอ วงกตมฤตยูที่ปูไว้แต่ภาคแรก ดินแดนมอดไหม้อันเวิ้งว้างรวมทั้งแห้งในภาคลำดับที่สอง ผู้แสดงรวมทั้งผู้แสดงชุดเดิมกลับมาอีกรอบเพื่อเล่าให้มันจบ
เรื่องย่อหนัง ‘ เมซรันเนอร์ 3 ’
ข้างหลังชาวทุ่งหนีออกมาจากวงกตได้เสร็จ และก็จำต้องเอาชีวิตรอดจากเหล่าผีดิบแล้วก็หน่วยงานวิคเค็ด (WCKD) ในดินแดนมอดไหม้ มาตอนนี้ พวกเขาจำเป็นจะต้องเสี่ยงภัยอีกทีในเมืองสุดท้าย ที่ตั้งของเมืองใหญ่ที่อยู่ข้างในกำแพง
โทมัส (Dylan O’Brien), นิวต์ (Thomas Brodie-Sangster) ร่วมด้วยเบรนดา (Rosa Salazar) และก็ฮอร์เฮ (Giancarlo Esposito) และก็พวกจำต้องเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนฝูงอย่างไม่นโฮ (Ki Hong Lee) ที่องค์กรจับตัวไปตรงนั้นมีการคุ้มครองปกป้องแน่นหนา กำแพงที่สูงสูงเด่น ที่นั่นมีอีกทั้ง เอวา เพจ (Patricia Clarkson) ผู้เป็นใหญ่เป็นโตในหน่วยงาน ที่มีเทรีซา (Kaya Scodelario) คนเคยรักของโทมัสเป็นผู้ช่าย ระหว่างที่แจนสัน เจ้าหน้าเจ้าตาหนู (Aidan Gillen) ก็ดูเริ่มจะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ
MAZE RUNNER: THE DEATH CURE มีชื่อไทยว่าไข้มรณะ ภาคที่ 3
ของภาพยนตร์ชุดเมซรันเนอร์ ซึ่งภาคนี้แหละเป็นภาคจบ หลังจากที่ให้แฟนๆคอยเกือบจะสามปี เนื่องจากนักแสดงหลักที่สวมบทบาทโทมัสอย่างดีแลน ได้รับอุบัติเหตุในกองถ่ายกระทั่งเป็นเหตุให้ต้องพักรักษาตัวเป็นระยะเวลาหนึ่ง รวมทั้งวันนี้เมซรันเนอร์ภาคสุดท้ายอันเป็นผลสรุปก็ได้เวลาออกมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์ เย้ถ้าหากให้เล่าเรื่องย่อทั้งปวงของสองภาคแรกบางทีอาจเป็นการเพิ่มให้รายละเอียดกระทู้ยาวจนกระทั่งเกินไป เราก็เลยขอสรุปอย่างคร่าวๆว่า เมซรันเนอร์ 3 โทมัสตื่นขึ้นมาในทุ่งโล่งที่โอบล้อมด้วยกำแพงพร้อมด้วยจำอะไรไม่ได้ หลังกำแพงยักษ์เป็นเขาวงกตที่สลับซับซ้อน และมีตัวประหลาดน่าขนลุกอยู่ในนั้น วันดีคืนดีโทมัสก็ตกลงใจพาเพื่อนวิ่งออกมาจากทุ่งโล่งไปยังวงกตเพื่อหาทางออก จนกระทั่งหาทางออกได้ พวกเขาพบว่าโลกภายนอกถูกทิ้งร้าง
มีผู้ติดเชื้อโรคคลุ้มคลั่ง (แคร้งก์) เดินเพล่นลนลานอยู่ และได้รับการเกื้อกูลจากหน่วยงานที่ชื่อว่า WCKD (วิกเก็ต) สุดท้ายหน่วยงาน WCKD กลับทำอะไรบางอย่างที่พวกเขาเห็นแล้วว่าไม่ดี ก็เลยตัดสินใจพากันหนีไป ก่อนในที่สุดโทมัสถูกเทรีซาแฟนทรยศระหว่างการแอบหนี จนกระทั่งเป็นเหตุให้มินโฮเพื่อนรักถูกจับตัวไปในภาคนี้!! โทมัส จำต้องนำทีมหนีเกลดเดอร์ในภารกิจในที่สุดที่เสี่ยงตายที่สุด ในการช่วยเหลือเพื่อนๆพวกเขาต้องฝ่าเข้าไปใน Last City แห่งตำนานซึ่งเป็นวงกตที่ WCKD เป็นผู้ควบคุม ซึ่งอาจเป็นวงกตที่เสี่ยงตายที่สุดก็ว่าได้ คนไหนกันซึ่งสามารถรอดตายออกมาได้จะพบกับคำตอบที่เดอะ เกลดเดอร์เคยถามเอาไว้ตั้งแต่คราวแรกที่พวกเขามาเยี่ยมวงกตหนังเปิดมาภาคนี้อย่างสนุก ไม่ต้องพูดเพ้อเจ้อทำเพลง
แอ็คชั่นจัดมาเต็มเม็ดเต็มหน่วยโดยไม่ต้องเกริ่นอะไรเลย (อ๋อ…จะต้องบอกก่อนว่า น่าจะจำต้องดูหนังภาค 1 และ 2 มาก่อนครับผม ไม่เช่นนั้นมาดูภาคนี้เลย มึนแน่ๆ) หนังฝ่ากันตั้งแต่ต้นเรื่องแทบๆยี่สิบนาที มองที่มาของเรื่องผมก็คิดแล้วว่า มันจำต้องมันส์แน่ๆแล้วมันก็สนุกและน่าติดตามตลอดทั้งความจริงๆผลของการปูเรื่องด้วยเนื้อหามากไม่น้อยเลยทีเดียวมากไม่น้อยเลยทีเดียวในภาคสอง มันมาเห็นผลในภาคนี้แหละ เพราะว่าสิ่งที่หนังเอ่ยถึงมันมีความจำเป็นกับภาคนี้ทั้งปวงเลยล่ะ หนังเข้มข้นตั้งแต่ต้นเรื่องกระทั่งถึงจบ ตลอดสองชั่วโมงครึ่งหนังน่าติดตามตลอดระยะเวลา ถึงแม้ว่าตอนกลางเรื่องจะมีบ้างที่แอบเนิบไปนิดนึง แต่ว่าเล็กน้อยจริงๆต่อจากนั้นก็สนุกยาวเลย
จำต้องจัดว่า ลุ้นกันตั้งแต่ฉากแรกยันฉากท้ายที่สุดกันอย่างยิ่งจริงๆ สำหรับหนัง เมซ รันเนอร์ ไข้มรณะ Maze Runner The Death Cure หนังภาคต่อที่ยังมองสนุก เมซรันเนอร์ 3 สำหรับคนสูงวัย (หน่อยๆ) อย่างผม แม้จะเคยดูภาคที่ผ่านมามาแล้ว แม้กระนั้นรับสารภาพตรงๆว่า ด้วยอายุอานามที่เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมจำเนื้อหาที่ได้มาจากภาคก่อนๆแบบได้บ้างมิได้บ้าง พอเพียงมาดูภาคนี้ บางส่วนบางตอนบางครั้งก็อาจจะไม่ค่อยปะติดปะต่อในสมองผมได้ทั้งหมดนัก แต่ว่าโน่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรที่ใหญ่โตเยอะมากกระทั่งกระทบต่อความเบิกบานใจเริงใจที่ท่านจะได้จากภาพยนตร์ในภาคนี้ สักเท่าใดนัก เรามาดูเรื่องย่อ Maze Runner The Death Cure กันก่อนดียิ่งกว่า
รีวิว maze runner 3 The Death Cure
ย้อนไปถึงการเอาตัวรอดจากเขาวงกตใน Maze Runner ภาคแรก comedy movies ต่อเนื่องมาจนกระทั่งการเอาตัวรอดจากการไล่ล่าในดินแดนมอดไหม้ในภาคถัดมา และ ในภาคนี้ “ โทมัส และก็ นิวท์ “ แล้วก็สหายๆ มีภารกิจที่จะต้องไปช่วยเหลือก ไม่นโฮ ที่โดนจับไป แต่เรื่องราวกลับบานปลาย และไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด พวกเขาจะต้องเจอกับปัญหาหลายแบบ ทั้งเรื่องของหัวใจแล้วก็เรื่องของการเสี่ยงอันตรายอันตรายผ่านสารพัดสารพันด่านสุดหิน รวมทั้งความลับที่พึ่งจะศึกษาและทำการค้นพบในตัวของโทมัส ส่วนสถานะการณ์จะเป็นอย่างไรถัดไป จะจบงามหรือจบแบบไม่สวย อันนี้บอกมิได้ ขอให้ไปชมเองที่โรงภาพยนตร์ใน เครือเมเจอร์ ทุกสาขา โดยสามารถเช็ครอบฉายได้ที่นี่ สำหรับคะแนน
รีวิวหนัง เมซ รันเนอร์ ไข้มรณะ Maze Runner The Death Cure
ผมให้คะแนนในส่วนของนักแสดง มากันครบทีม หล่อผู้หญิงกรี๊ด สลบ และก็เล่นได้สมบทบาทดีเลิศ ผมให้แต้มในส่วนนี้ที่ 9/10 ในส่วนของฉากบู๊ แอคชั่น สนุกหยด แล้วก็กราฟิค ก็ทำออกมาเจริญ เหมือนจริงมากมาย ผมให้ที่ 9/10 ในส่วนของการดำเนินเรื่อง ก็มีความเพลิดเพลินตื่นเต้น น่าติดตามอยู่เสมอเวลา สลับกับดราม่า น้ำตาท่วมหน้าจอ เป็นระยะๆ อันนี้ ผมให้เลย 9.5/10
สรุปภาพรวมของหนัง Maze Runner The Death Cure
หรือ เมซ รันเนอร์ ไข้มรณะ ผมให้ 9.5/10 มองได้ไม่เสียดายตัง fast 9 เต็มเรื่อง หนังสนุกสนานตื่นเต้น มากๆนะครับเรื่องย่อหนังหนัง Maze Runner 3 หรือชื่อไทยว่า เมซ รันเนอร์ ไข้มรณะ โทมัสทราบดีว่าเหล่า Wicked นั้นไม่อาจจะไว้ใจได้ แม้กระนั้นพวกเขากล่าวว่าเวลาที่การโกหกนั้นได้จบลงแล้ว พวกเขาได้ความจำเป็นทั้งหมดทั้งปวงจากวงกตและก็เหล่า Gladers เป็นที่เป็นระเบียบ ด้วยความทรงจำที่กลับมาทั้งผอง โทมัสได้เข้าร่วมภารกิจสุดโหดหิน เพื่อให้เหล่า Gladers ได้เติมเต็มพิมพ์เขียวของการดูแลและรักษาโรคไข้แฟลร์ แต่ Wicked ไม่รู้ว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นนอกจากที่พวกเขาคาดหมายเอาไว้ โทมัสสามารถจดจำได้มากกว่าที่พวกเขาคิด และเขาทราบว่าเขาจะไม่อาจจะเชื่อคำพูดของ Wicked ได้อีกต่อไป เวลาแห่งการโกหกจบลงแล้ว แต่ว่าความเป็นจริงนั้นอันตรายอย่างยิ่งกว่าที่โทมัสจะจินตนาการได้ จะมีคนใดกันสามารถรอดไปจาก Death Cure ได้ไหม?
ภายหลังห่างหายไปนานด้วยเหตุว่านักแสดงเจ็บระหว่างถ่ายทำ เมซรันเนอร์ 3 สุดท้ายก็กลับมาอย่างมากใหญ่ในภาคที่ 3 …ซึ่งก็โปรโมตกันหนักพอดู ฉากต่างๆก็เล่นใหญ่ตระการตามาก!! ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากหนังที่ทำให้เราสงสัยในหลายข้อความสำคัญ แปลงเป็นหนังแอคชั่นดาษดื่นมากยิ่งกว่าส่วนที่ห่วยเป็นหนังตกม้าตายตรงบทหลายครั้ง …ซึ่งก็ไม่ต้องการจะโทษบทสิ่งเดียว บางทีก็อาจจะเป็นที่การนำเสนอออกมาเป็นภาพก็เป็นได้ คือ บางช่วงมันดูพากเพียรแนะนำคนดูมากจนเกินความจำเป็น ดังเช่น บางเรื่องบททำออกมามองง่ายเกินเหตุ ถึงแม้ว่าภาพรวมที่ฉายบนจอ มันไม่น่าจะจบกล้วยๆอย่างนั้นได้ หรือบางฉากก็มองบังเอิญกระทั่งเกินความจำเป็น ไหมเมคเซนส์กับบริบทบนภาพที่หนังเสนอออกมาความสนุกสนานสำคัญๆของหัวข้อนี้เลยไปอยู่ที่ฉากต่อสู้มากกว่า ส่วนฉากดราม่าหลายๆฉากก็ทำออกมาก้าวหน้า เพียงแค่ที่ใส่มาก็ดูตั้งใจ ยัดเข้ามาในบทเฉยๆให้ผู้ชม เศร้า ซึ้ง ไปกับหนัง เลยขยี้แล้วก็ย้ำมากไปหน่อย
